According…
“เดี๋ยวฮยองกลับมาหานะครับ จีฮุนนอนก่อนนะ”
นั่นเป็นประโยคสุดท้ายของฮยองคนนั่น ฮยองที่เป็นคนดูแลผมมาตั้งแต่เด็ก หลังจากเค้ากลับไป
ในวันนั้น เค้าก็ไม่กลับมาอีกเลย คิมแจฮวานคนนั้นหายไปแบบไม่ลาสักคำ
ทิ้งให้เด็กอายุ12 ขวบอย่างผมฉลองวันเกิดในคืนต่อมาเพียงลำพัง ทั้งๆที่ปีก่อนๆไม่เคยมีสักครั้งที่คนที่แสนดีคนนั้นจะปล่อยผมไว้แบบนี้
ผมได้แต่หวังว่าวันต่อมาคิมแจฮวานจะกลับมาดูแลผมเหมือนเดิม
เมื่อวานอาจจะติดธุระหรือเปล่า แต่ความหวังช่างริบหรี่ เมื่อพ่อบ้านของผมมาแจ้งว่าคนที่ดูแลผมตั้งแต่เกิดกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ทิ้งไว้เพียงจดหมายลาออก
หัวใจดวงน้อยในอกเด็กอายุ12 แสนปวดร้าว ราวกับแก้วบางๆที่กำลังจะแตกออกจากกัน
คนที่แสนดีคนนั้นทิ้งผมไปแล้ว ไหนบอกจะกลับมาไง เห็นผมเป็นแค่เด็กน้อยใช่มั๊ย เค้าถึงทิ้งผมไปไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้…ไหนบอกจะดูแลผมตลอดไปไง
(ค่อยดูผมจะตามหาผู้ชายคนนั้น จะตามหาให้กลับมารักษาสัญญาที่ให้ไว้กับผม
คิมแจฮวาน ตลอดชีวิตนี้ฉันจะตามหานายให้เจอให้ได้.....)
6ปีต่อมา
((ฮยองจะอยู่กับจีฮุนทุกวันเกิดเลยครับ))
((สัญญาแล้วนะครับฮยองจะอยู่กับผมทุกวันเกิดเลยนะ))
เสียงเล็กๆของเด็กชายตัวน้อยคุยกับคนดูแลส่วนตัวด้วยน้ำเสียงสดใส หนึ่งเด็กหนึ่งผู้ใหญ่หยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน
คำสัญญาที่ยังดังก้องในความทรงจำ ท่ามกลางสนามหญ้าแสนสวยในบ้านหลังใหญ่
ผมจำได้ทุกประโยคเลยนะ จำได้หมด ผมพยายามตามหาคิมแจฮวานอดีตคนดูแลมาหลายปี
ทั้งๆที่ครอบครัวของผมยิ่งใหญ่และมีอำนาจกับหาไม่เจอแม้สักครั้ง
ผมสู้อดทนทำอาชีพที่เป็นจุดเด่นโด่งดังเพื่อให้ใครอีกคนจำผมได้ ให้เค้าได้มองเห็นผมและกลับมาหาผม ผมเป็นดารา นักร้อง นายแบบ
ผมเป็นทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองได้อยู่ท่ามกลางมหาชน อย่างน้อยคนๆนั้นต้องจำชื่อผมได้บ้างก็ยังดี
แต่มันไม่จริงเลย ตั้งแต่ผมเข้าวงการบันเทิงมากับไม่ได้รับการติดต่อมาเลยสักครั้งก็ไม่มี ผมยังจำทุกกลิ่นทุกสัมผัสรูปร่างแม้กระทั่งเสียงหวานๆ
ที่ค่อยกล่อมผมตลอดมา ฮยองหนีผมไปทำไมกัน ฮยองทิ้งผมไปทำไมกัน ฮยองเกลียดผมแล้วใช่มั๊ย หลายล้านประโยคคำถามที่ยังวนเวียนอยู่ในใจ
ที่ผมเก็บไว้เพื่อถามใครบางคน แต่ความรู้สึกที่เด่นชัดที่สุดคงเป็นความคิดถึง
คิดถึงทุกช่วงเวลา คิดถึงคนๆนั้น
“คุณจีฮุนจะกลับบ้านเลยมั๊ยครับ”
เสียงคนดูแลส่วนตัวผมดึงผม ออกจากความคิด
“พ่อกับแม่อยู่บ้านหรือเปล่า”
ครอบครัวผมแทบไม่มีใครอยู่บ้านเลยด้วยซ้ำผมโตมาเพียงคนเดียวในบ้านหลังใหญ่แต่ผมไม่ใช่ลูกคนเดียว
พี่ชายของผมก็พึ่งแต่งงาน
ถึงยังอยู่เค้าก็คงทิ้งผมไว้ที่บ้านเหมือนกัน
แต่ผมไม่เคยรู้สึกขาดเพราะถึงพ่อกับแม่และพี่ชายจะไม่มีเวลาว่างให้ผมนัก
แต่ก็ยังโทรมาหาเป็นครั้งคราวไม่ได้ทอดทิ้งผมไปซะทีเดียว มีแต่เค้านั่นแหละ เค้าคนนั้นที่ผมต้องการ ที่ทิ้งผมไป
“ไม่อยู่ครับ”
“งั้นไม่กลับ ฉันขอไปเดินเล่นแถวนี้สักหน่อยละกัน.....ไม่ต้องตาม”
“แต่...”
ผมหันกับไปจ้องหน้าคนติดตามของตัวเองอีกทีเพื่อไล่เค้ากลับไป
ผมไม่ชอบให้ใครมาเดินตามเลย ไม่ชอบจริงๆ ผมดึงที่ปิดปาก แว่นตา ขึ้นมาส่วมพร้อมเดินไปข้างหน้าเพื่อหาอะไรน่าสนใจ
ชีวิตนี้ช่างน่าเบื่อ ถ้าฮยองยังอยู่ผมคงมีความสุขกว่านี้ หึ
หรือมันจะเป็นเพียงความหวังลมแล้งๆกันนะ
ผมเดินตามทางละแวกนี้ไปเรื่อยๆผ่านหลายๆร้านที่น่าสนใจ แต่มันกับน่าเบื่อเกินไปสำหรับผม
หรืออาจจะเป็นเพราะตอนนี้ผมรู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน
การถ่ายแบบแต่เช้าไม่ใช่เรื่องดีสักนิด ตาผมล้าไปหมด ตอนนี้ผมอยากพัก
แค่อยากนอนพัก แบบเงียบๆ
สายตาแสนอ่อนล้ามองไปรอบๆเพื่อหาที่ๆตัวเองจะนอนพักสายตาได้ จนเจอสวนสาธารณะน่าสนใจ
ร่างหนาเดินไปตามทางอย่างรวดเร็ว
เพื่อหาจุดที่ตัวเองจะพักผ่อนจากความอ่อนล้านี่ได้
สองเท้าก้าวไปข้างหน้าเพื่อหามุมสงบ สุดท้ายก็เจอศาลาเล็กๆข้างสนามเด็กเล่น
ที่ตอนนี้ไม่มีเด็กๆหรือคนแม้แต่น้อย
อาจจะเป็นเพราะจะเข้าหน้าหนาวแล้วประกอบกับตอนนี้ใกล้ค่ำเต็มที
ผมถึงได้ที่พักสงบขนาดนี้
“คิมแจฮวาน ฮยองจะเป็นยังไงบ้างนะ แก้มจะยังกลมเหมือนเดิมมั๊ยนะ
ผิวจะสวยเหมือนเดิมมั๊ยนะ มือเล็กๆแสนสวยจะอุ่นเหมือนเดิมมั๊ยนะ คิดถึงจังผมคิดถึงฮยองนะ”
หึ
ก็ได้แต่ทำแค่นี้แหละแต่ฝากความคิดถึงไปตามลมให้ส่งถึงฮยองที่ผมแสนคิดถึง
ร่างสมส่วนเอนหัวพิงกับเสาศาลากลางสวนสาธารณะหลังจากนั่งลงเพื่อพักร่างกายที่แสนอ่อนล้า
สายลมอ่อนๆพัดโชยรอบตัว ถึงมันจะหนาวเย็นแต่ภายในใจเค้าหนาวยิ่งกว่า
หนาวเพราะความคิดถึง คิดถึงใครคนนั้น
ความเหนื่อยที่เกาะกุมมาทั้งวันทำให้ร่างหนาเผลอหลับได้ง่ายเข้าสู่นินทราไปเจอใครอีกคนที่ร่างหนาต้องการทุกลมหายใจเข้าออก ความฝันช่างแสนมีความสุขมันมีแค่ร่างหนาและฮยองคนนั้น.....อยู่ในฝันตลอดไปได้มั๊ยนะ.
ความเหนื่อยที่เกาะกุมมาทั้งวันทำให้ร่างหนาเผลอหลับได้ง่ายเข้าสู่นินทราไปเจอใครอีกคนที่ร่างหนาต้องการทุกลมหายใจเข้าออก ความฝันช่างแสนมีความสุขมันมีแค่ร่างหนาและฮยองคนนั้น.....อยู่ในฝันตลอดไปได้มั๊ยนะ.
“คุณ คุณครับ คุณ”
((เสียงอะไรทำไมเหมือน...คงไม่ใช่หรอกเราแค่ฝัน))
“คุณมานอนอะไรตรงนี้ครับ หิมะจะตกแล้วนะ”
เสียงนี้อีกแล้ว
“อืออออ”
สุดท้ายก็ต้องตื่นสินะ ทั้งที่ฝันมีความสุขขนาดนั้น ได้ยินเสียงด้วย
“คุณครับเป็นอะไรหรือเปล่า”
ทำไมเสียงนี้ใกล้ขนาดนี้
ผมพยายามลืมตาที่แสนหนักอึ่งเพื่อมองสำรวจรอบๆตัว
“คุณครับ คุณ”
“อ๊ะ”
ไม่จริงน่า ไม่จริงๆ
เพียงแค่ผมลืมตาขึ้นก็เจอหน้าใครบางคนที่ผมคิดถึงมาตลอด6ปี ผมฝันอยู่ ใช่ๆผมกำลังฝัน
“คุณเป็นอะไรหรือเปล่า”
มือเล็กของคนตรงหน้ายืนเข้ามาจับแขนผมเบาๆ มันเป็นความอบอุ่นที่ผมคุ้นเคย
มือเล็กของคนตรงหน้ายืนเข้ามาจับแขนผมเบาๆ มันเป็นความอบอุ่นที่ผมคุ้นเคย
“ไม่มีที่พักหรอครับ”
เสียงหวานๆที่ผมคิดถึงส่งความห่วงใยมาให้แบบไม่มีปิดบัง
เสียงหวานๆที่ผมคิดถึงส่งความห่วงใยมาให้แบบไม่มีปิดบัง
“คุณมีที่พักหรือเปล่าครับ”
คนตัวเล็กล้มหน้าลงถามใกล้ๆอย่างต้องการคำตอบ กลิ่นหอมนี้มันใช่
นี่มันคิมแจฮวานไม่ผิดแน่
ผมเจอแล้ว ผมเจอเค้าแล้ว หัวใจในอกที่แห้งตายมานาน
เหมือนได้รับการกระตุ้นจากอุ้มมืออุ่นๆที่สัมผัสผมอยู่
ครั้งนี้ผมจะไม่มีทางที่จะปล่อยคนๆนี้ไปอีกแล้ว
ครั้งนี้ผมตามติดจะไม่ให้คลาดสายตา จะให้ไม่หายไปอีกค่อยดู
“ไม่มี”
ทำไมตอบได้แค่นั้นกันนะทั้งๆที่มีคำพูดมากมายแต่เสียงที่ออกจากปากกับมีแค่นั้น
พัคจีฮุนเดี๋ยวเค้าก็หนีนายไปอีกหรอกถ้ายังเป็นแบบนี้
“ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นอะไร”
ใจดีเหมือนเดิมจริงๆ ไม่สิเหมือนเดิมไปซะทุกอย่าง อย่างรู้จริงๆ
อยากรู้ว่า เค้าทิ้งผมมาทำไมทั้งๆที่ใจดีขนาดนี้
“ไปพักกับฉันก็ได้ฉันอยู่คนเดียว”
“อื้ม”
จำผมไม่ได้เลยสินะ....ชักอยากลงโทษแล้วสิ.
แล้วยังปล่อยเนื้อปล่อยตัวอยู่ๆก็ชวนคนแปลกหน้าไปพักด้วย
เป็นคนประเภทไหนกันนะ
“ทำไมถึงชวนผมล่ะ ไม่กลัวหรอ”
ผมเดินตามคนตัวเล็กไปตามทางที่ทอดยาว ท้องฟ้าคืนนี้มืดมิดกว่าทุกวันเพราะไร้ดวงดาว
ก้อนเมฆใหญ่น้อยเต็มท้องฟ้าไปหมดหิมะลอยมาตามลม ท้องฟ้าดูเหงาจัง ดูอ้างว้าง
ถ้าเป็นทุกๆวันผมก็จะเศร้าตามไปด้วย แต่วันนี้กลับไม่ใช่
เมื่อผมได้เจอคนที่ผมตามหามาตลอด ไปแอบอยู่ไหนมานะ
แก้มที่เคยอวบอิ่มจนมองเห็นได้จากข้างหลังก็หายไป เหลือเพียงร่างกายที่ดูเล็กลงไปเป็นเท่าตัว
หรือว่าจะลำบากอยู่กันนะ
“ไม่มีอะไรต้องกลัวนิ นายดูเหงา นายน่าจะไม่มีใคร นายดูเศร้ามากเลยนะ
หรือกำลังรอใครอยู่”
คนตัวเล็กหยุดเดินแล้วหันมาถามคำถามที่แสนอึดอัด อยากตอบจริงๆ
ว่าผมรอคนตัวเล็กอยู่นั่นแหละ แต่คงจะแปลกไป
คิมแจฮวานคนนี่เหมือนลืมทุกอย่างไปหมดแล้ว ลืมผมไปหมดแล้วสินะ
ดูเหมือนจะจำผมไม่ได้ด้วยซ้ำ ทั้งยังดูไม่รู้จักชื่อเสียงผมเลย
“อื้มผมรอเค้ามานานแล้วล่ะครับ แต่เค้าคงไม่มาแล้วล่ะ”
เพราะเค้าอยู่ตรงหน้าผมไง ผมอยากจะตอบแบบนั้นจริงๆนะ
แต่คนตรงหน้าผมต้องตกใจมากๆแน่ๆ
“งั้นหรอเหมือนฉันเลย”
ใครกันทำให้คนตรงหน้าผมดูเศร้าขนาดนี้ มันเป็นใคร
“ไปกันเถอะอีกนิดก็ถึงห้องฉันแล้ว”
อยู่ๆคนตัวเล็กก็เปลี่ยนเรื่องพร้อมเร่งเดินไปข้างหน้า จนมาหยุดอยู่หน้าห้องเช่าเก่าๆที่มีเพียง2ชั้น
แถมยังดูเก่ามากๆ
อยู่แบบนี้ได้ไง อยู่ที่แบบนี้ได้ยังไง มันดูไม่ปลอดภัยเลยนะ หงุดหงิด
หงุดหงิดมากๆ ผมโกรธที่คนๆนี้ ออกมาจากบ้านผมแล้วชีวิตกลับไม่ได้ดีอย่างที่ผมคิด
มันทำให้ผมหงุดหงิดอยากจะสั่งทุบสิ่งก่อสร้างตรงหน้าจริงๆ
“คุณพักที่นี่หรอ”
ผมถามออกไปเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง พร้อมเก็บสีหน้าไว้ให้ลึกที่สุด
พยายามอดกลั้นลาวาความหงุดหงิดไว้ในอก
“มันไม่ค่อยจะสะดวกสบายเท่าไหร่หรอกนะ นายพักได้มั๊ย”
คนตัวเล็กเดินนำขึ้นไปบนชั้น2ของตึกแห่งนี้ อย่างเคยชิน
ผมมองทุกการกระทำของคนตัวเล็ก ชุดที่ใส่อยู่ก็เหมือนไปทำงานหนักๆมา
ทำไมมันเป็นแบบนี้กันนะ
“ได้ครับ แล้วให้ผมมาพักแฟนคุณไม่ว่าหรอครับ”
ผมลองเชิงถามเพื่อให้รู้ข้อมูลคนตัวเล็กให้มากที่สุด
“เค้าคงไม่กลับมาแล้วล่ะ”
เสียงเล็กที่เหมือนบ่นกับดินฟ้าอากาศ พูดเบาๆกับตัวเอง แต่ผมกับได้ยินชัดเจน
เพราะแถวนี้มันเงียบไปหมด ไม่กลับมางั้นหรอ ทำไม
(แก๊ก)
คนตัวเล็กเดินนำผมเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว
แค่ผมสำรวจไปรอบๆห้องก็รู้แล้วว่าความเป็นอยู่คนตัวเล็กไม่ดีนัก
ห้องกว้างที่มีเพียงฟูกชุดเดียวถูกพับไว้ติดหน้าต่าง ครัวก็ไม่มี
มีแค่ห้องน้ำและเครื่องทำความร้อน แอร์ก็เก่าจนไม่รู้ว่าจะเปิดได้หรือเปล่า
ทำไมห้องนี้ถึงไม่มีอะไรเลย ออกมาแล้วเป็นแบบนี้เนี้ยนะ คิมแจฮวาน จะออกมาทำไม
“คิมแจฮวานคนโง่”
“นายว่าอะไรนะ”
“เปล่าครับ”
“งั้นหรอ”
ซื่อจนดูโง่เลยนะ ทำไมหลอกนิดๆหน่อยๆก็เชื่อแล้ว โลกนี้มันน่ากลัวจะตายแล้วออกมาอยู่คนเดียวเกือบ7ปีเลยนะ
แม่งทำไมถึงโง่ขนาดนี้ คิมแจฮวานคนโง่
ผมจ้องมองใครอีกคนที่วิ่งวุ่นไปทั่ว
หยิบที่นอนใหม่ที่ถูกเก็บไว้ในตู้ออกมาให้ผม
“ไปอาบน้ำก่อนสิ นี่ชุดนายน่าจะใส่ได้นะ”
คนตัวเล็กยืนชุดที่ดูใหญ่กว่าตัวเองมาให้ผม
“ของใครครับ”
“คนที่ทิ้งไปน่ะ ใส่ไปเถอะ”
คนที่ทิ้งไปมันไม่ใช่ฮยองหรอคิมแจฮวาน ผมจ้องมองคนข้างหน้าอย่างต้องการคำตอบ
แต่คนตัวเล็กกลับไม่สนใจแล้วหันไปจัดที่นอนเช่นเดิม
“ขอบคุณครับ”
ผมละออกมาแล้วเดินเข้าห้องน้ำมาชำระร่างกาย
ไม่ลืมที่จะส่งข้อความไปให้คนดูแลว่าวันนี้จะไม่กลับ แว่นสายตาแฟชั่นถูกถอดออกพร้อมกับที่ปิดปาก
ผมอยากรู้นะว่าที่คนตัวเล็กจำผมไม่ได้เพราะนี่หรือเปล่า
แต่ผมกับอยากให้เป็นแบบที่คิด ลืมกันไปหมดหรือยังนะคิมแจฮวาน
ลืมผมไปหมดหรือยัง
“นายนอนตรงนี้นะ เดี๋ยวฉันจะไปทำงานต่อ”
งานอะไรกัน งานอะไรอีกพึ่งกลับมานิ
“คุณพึ่งกลับมาไม่ใช่หรอ”
“อื้ม จากที่แรกน่ะ ฉันต้องไปทำงานร้านสะดวกซื้อต่ออีกที่”
ผมไม่ไหวแล้วนะ
ออกมาลำบากขนาดนี้ได้ยังไง ทำไมต้องทำงานไม่ได้พักผ่อน
ผมเจอคนตัวเล็กไม่ถึง3ชั่วโมงกับรู้ว่าคนตัวเล็กต้องงานหนักขนาดนี้
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรแต่ผมจะไม่ยอมอีกแล้ว
“คิมแจฮวาน ทำไมต้องทำงานเยอะขนาดนี้”
“นายทำไมรู้จักชื่อฉัน ฉันยังไม่ได้บอกนิ หรือนายเป็นเจ้าหนี้ฉัน”
หนี้งั้นหรอคนตัวเล็กตรงหน้าเป็นหนี้งั้นหรอคนที่อดอ้อมเก่งขนาดนี่เนี้ยนะเป็นหนี้
ผมไม่เชื่อหรอกนะ
“ฮยองจำผมไม่ได้หรอครับ”
“นายเป็นใคร เราพึ่งเจอกันนิ”
หึ ลืมไปแล้วสิเด็กน่ารำคาญคนนี้
“ผมมันน่ารำคาญใช่มั๊ย ฮยองถึงลืมผมไปได้แบบนี้”
ผมจ้องเข้าไปในดวงตาใสที่ดูหวาดกลัวผม
กลัวทำไมผมไม่คิดจะทำอะไรฮยองหรอกนะ
“นะนายเป็นใครกัน”
ร้องไห้ได้มั้ย คงไม่ต้องถามหรอกในเมื่อเด็กโง่คนนี้ปล่อยน้ำอุ่นๆไหลออกมาจากสองดวงตานี้
พร้อมจ้องมองคนตรงหน้าอย่างผิดหวัง ผมทำอะไรผิดทำไมฮยองถึงจำหน้าผมไม่ได้ขนาดนี้
“ระร้องไห้ทำไมกัน ฉันไปทำอะไรให้งั้นหรอ”
“ฮยองจำผมไม่ได้เลยหรอ พัคจีฮุนคนนี้มันไม่น่าจนจำเลยงั้นหรอครับ”
ผมจ้องมองดวงหน้าแสนน่ารักที่ดวงตาเบิกกว้างอย่างตกใจ หึ ยังดีที่จำชื่อผมได้นะ
“จีฮุนงั้นหรอทำไมโตขนาดนี้แล้วล่ะ”
“เกือบ7ปีแล้วนะฮยอง จะให้ผมหยุดอยู่กับที่งั้นหรอครับ”
ผมเดินเข้าไปหาคนตัวเล็กด้านหน้าช้าๆ พร้อมยืนมือไปจับใบหน้าแสนน่ารักเพื่อดูใกล้ๆ
“มีแต่ฮยองแหละที่ยังเหมือนเดิม แต่มีอย่างนึ่งที่ฮยองไม่เหมือนเดิมตรงที่ฮยองลืมสัญญาของเราไปหมดแล้ว”
“จีฮุนฮยองขอโทษนะที่รักษาสัญญาไม่ได้”
สองแขนเล็กของคนตรงเอื้อมมือมากอดผมไว้ทั้งจนแก้มเล็กๆถูไปกับไหล่ผม
ความอบอุ่นที่ผมคิดถึงแผ่กระจายไปทั่วร่างกาย พร้อมทั้งกลิ่นประจำตัวคนตัวเล็กที่ตีขึ้นจมูกผมอย่างรุนแรง
คิดถึง คิดถึงสัมผัสนี้ที่สุด
ผมรวบคนตัวเล็กเข้ามาในอ้อมอก
กลัวจริงๆผมกลัวว่าคนตรงหน้าจะหายไปอีกกลัวว่านี่จะเป็นแค่ความฝันที่แสนหวาน
กลัวไปหมด ผมอยากจะจับคนตัวเล็กล่ามไว้ด้วยซ้ำในเวลานี้
“จีฮุนตอนนี้ช่วยปล่อยฮยองก่อนเถอะฮยองต้องไปทำงาน”
อะไรกันทั้งๆที่พึ่งเจอกับจะหนีไปทำงานอีกงั้นหรอ
“ไม่ให้ไปฮยองต้องอยู่กลับผม”
“จีฮุนให้ฮยองไปเถอะนะ ไม่งั้นฮยองจะไม่มีเงินจ่ายดอก”
เอ๊ะเรื่องนี้อีกแล้ว ดอกอะไรกัน ฮยองจะเป็นหนี้แค่ไหนกันเชียว
แล้วที่ผมสงสัยตั้งแต่แรกว่าทำไมถึงเป็นหนี้นั้นล่ะ แล้วเรื่องที่ใหญ่กว่านั้นคือคนคนนี้หนีผมไปทำไมกัน
“ผมไม่ให้ไป ฮยองต้องไปกับผมก่อน”
จะว่าผมเอาแต่ใจก็ได้ตอนนี้ผมจำไม่ปล่อยคนคนนี้ไว้ที่นี่อีกแล้วจะไม่ให้ห่างสายตาผมอีกแล้ว
“จีฮุนแต่ฮยองต้องไปทำงานนะ”
“ไปลาออกซ่ะต่อไปนี้ผมจ้างฮยองมาดูแลผมแทน แล้วฮยองต้องมาเล่าทุกอย่างตลอด7ปีที่ผ่านมาด้วยว่าทำไมฮยองถึงหายไป”
ผมจ้องมองไปที่คนตรงหน้าเพื่อกดดัน จะว่าผมบ้าก็ได้แต่ตอนนี้ผมไม่มีทางปล่อยคนตรงหน้าไปแน่ๆแม้สักวินาทีเดียวก็ไม่ยอม
“จีฮุน”
“ฮยองก็รู้นิว่าผมนิสัยยังไง
เล่ามาสิเล่ามาให้หมดเรื่องราวที่ทำให้ฮยองหายไป”
.
.
.
.
.
.
.
.
“ทำไมฮยองถึงไม่กลับมาหาผมล่ะครับ”
นี่เป็นประโยคที่เด็กที่นั่งขัดตะมาดตรงหน้าพูดออกมาอย่างรวดเร็วหลังจากฟังเรื่องราวตลอด7ปีที่ผ่านมาของผม
7ปีที่ผมผิดสัญญา ผมจำสัญญานี้ได้แม่นยำแต่กับไม่สามารถทำตามได้
เมื่อ7ปีก่อนแฟนของผมกับผมตัดสินใจเปิดร้านกาแฟด้วยกัน
ผมเลยต้องลาออกจากงานดูแลเด็กที่ผมแสนรัก ผมรักพัคจีฮุนมากๆ แต่กับต้องเลือกที่จะทิ้งมาแล้วมาตั้งตัว
แล้วคิดว่าอีก2-3ปีจะกลับไปหลังจากประสบความสำเร็จแล้ว แต่ชีวิตผมกับไม่ปูด้วยดอกกุหลาบอย่างที่ผมคิด
แฟนหนุ่มของผมอยู่ๆก็สร้างหนี้มากมายพร้อมทั้งใส่ชื่อผมเป็นลูกหนี้ร่วมกับเค้า
แล้วหนีไปหลังจากได้เงินทั้งหมด ผมถึงจำเป็นต้องขายทุกอย่างทิ้งร้าน
ทิ้งเงินก้อนสุดท้าย ที่ผมเสียใจที่สุดคงเป็นทิ้งเด็กหนุ่มตรงหน้า
เด็กน้อยที่แสนน่ารักในอดีต ทิ้งคำสัญญาที่ให้ไว้ ทิ้งแม้กระทั่งความคิดที่จะกลับไปหาคนตรงหน้า
“ฮยองกลับไปไม่ได้จีฮุน ตอนนั้นฮยองคิดแค่ต้องหางานทำให้ได้มากที่สุด
เพื่อเอามาใช้หนี้”
“งั้นฮยองรอผมแป๊บนึ่ง ผมขอโทรศัพท์แป๊บ”
“อื้ม”
ผมมองตามเด็กหนุ่มที่ดูโตเป็นผู้ใหญ่จนหน้าใจหาย
ไม่คิดเลยว่าไม่ถึง10ปีจะโตเร็วขนาดนี้แล้ว ดีใจจังอย่างน้อยก็ได้เจอ
“ฮยองผมใช้หนี้ให้ฮยองหมดแล้วพร้อมทั้งดอกเบี้ยพร้อมทั้งลาออกจากงานทั้งหมดที่ฮยองทำไปด้วย”
“จีฮุน คือ”
“ผมยังพูดไม่จบ
ต่อไปนี้ฮยองต้องกลับมาเป็นคนดูแลผมเพื่อใช้หนี้”
ผมจ้องมองเด็กหนุ่มตรงหน้าอย่างไม่รู้จะอธิบายยังไง
ผมเป็นใครกันทำไมเด็กหนุ่มคนนี้ถึงทำเพื่อผมคนนี้ขนาดนี้
ทั้งๆที่ไม่ใช่ครอบครัวเป็นคนที่ผ่านมาและผ่านไปทำไมไม่ลืมกัน
ทั้งๆที่คนตรงหน้าคงมีคนมากมายล้อมหน้าล้อมหลังด้วยหน้าตาและฐานะขนาดนี้ แต่กับยังจำคนโง่ๆคนนี้ได้
“พัคจีฮุน อึก พัคจีฮุน ฮรือ”
ผมร้องไห้อย่างไม่อาย
ไม่คิดว่าต้องตามให้เด็กอายุ19โอบกอดผมไว้ขนาดนี้
“ต่อไปนี้ไปอยู่กับผมนะ ผมจะดูแลฮยองเอง”
“อือ”
ทั้งๆที่ผมไม่ได้เจอเด็กคนนี้มาเกือบ7ปี ทั้งที่ผมไม่ได้มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดกับเด็กคนนี้เลย
ทั้งๆที่คนนี้อายุน้อยกว่าผมมากขนาด แต่ผมกับเชื่อว่าคนที่ไม่เจอกันมาตลอด7ปีจะดูแลผมได้ ผมนี่มันโง่จริงๆ
ทั้งที่รู้ว่ามันเชื่อยากแต่ผมก็อยากจะเชื่ออีกสักครั้งว่ามีคนอยากจะดูแลผมจริงๆ
“ห้ามหนีไปไหนอีกนะครับฮยอง”
“ไม่หนีแล้ว”
“ถ้าหนีครั้งนี้ผมจะจับฮยองล่ามโซ่ให้ตัวติดกับผมเลยนะ”
“เอาสิ”
“สัญญาแล้วนะครับ”
“สัญญา”
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
แถม
4เดือนต่อมา
“ฮยองลองใส่ชุดนักเรียนผมหน่อยสิครับ”
“ทำไมล่ะ”
ก็ไม่ทำไมหรอกแค่อยากเห็นเท่านั้นเองมั้งนะ
“ใส่เถอะผมอยากดูว่าฮยองใส่แล้วจะออกมาเป็นยังไง”
ผมยืนชุดนักเรียนสีเหลืองสวยให้กับคนตัวเล็กด้านหน้า
ดูหน้างงๆที่แสนน่ารักนั้นสิ หมั้นเขี้ยวชะมัด
“ก็ได้ๆ รอแป๊บเดี๋ยวไปห้องน้ำแป๊บนึ่ง”
“เร็วๆนะครับ”
คนตัวเล็กเดินเตาะแตะเข้าไปในห้องน้ำน่ารักจริงเชียว
เกือบ5เดือนแล้วที่คิมแจฮวานกลับมาอยู่กับผม
ทุกวันผมจะให้แจฮวานฮยองอยู่ในคอนโดของผม ให้ได้ทำขนมได้เล่นดนตรีตามความต้องการของฮยองแต่ไม่ปล่อยให้ไปไหนคนเดียวถ้าไม่มีผมไปด้วย
ถึงจะดูเหมือนกักขัง
แต่แจฮวานฮยองกับไม่เคยคิดแบบนั้นเลยเค้ามีความสุขมากๆจากที่ผมเห็นและรับรู้จนทำให้ผมมีความสุขมากๆตามไปด้วย แจฮวานฮยองคือแหล่งพลังงานของผม
ผมรักแจฮวานฮยองยิ่งกว่าสิ่งใดในโลก ผมไม่มีทางให้คนตรงหน้าต้องเสียใจหรือลำบากอีกแน่นนอน
ไม่มีทาง
“จีฮุนมันดูแปลกๆมั้ย”
คนตัวกับชุดนักเรียนโรงเรียนผมมันเข้ากันชิบหาย สองขาของผมรีบก้าวไปใกล้ๆ
พร้อมรีบอุ้มคนตัวเล็กขึ้นพร้อมมุ่งหน้าไปที่เตียงนอนใหญ่ของเราสองคน ก็น่ารักขนาดนี้เลยนะ
“จีฮุนจะทำอะไร”
“ฮยองก็น่าจะรู้อยู่แล้วนิ”
“แต่ฮยองยังใส่ชุดนักเรียนอยู่นะ”
สองแก้มกลมๆของคนตัวเล็กแดงกล้ำอย่างเขินอายน่ารักชิบหายเลย
“ดีแล้วฮยอง ฮยองใส่ชุดแบบนี้โครตดี
เหมือนผมได้เอากับรุ่นพี่ที่โรงเรียนเลย”
“พัคจีฮุน อือ”
ริมฝีปากเล็กถูกดูดกลืนอย่างรวดเร็ว สองมือหนาลูบไล้ไปทั่วชุดนักเรียนที่คนตัวเล็กใส่อยู่
อย่างต้องการ จนมือใหญ่สอดเข้าไปในเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวใน
บีบยอดดอกสวยที่เค้ารู้ว่ามันแดงกล้ำแค่ไหนเบาๆ
“อือ จีฮุนอ้า”
คนตัวเล็กบิดเร้าอย่างรุนแรงหลังมือหนาปลดกระดุมกางเกงสะแล็คสีดำ
จับอวัยวะที่ไว้ต่อสัมผัสอย่างรุนแรง
ปากหนาเมื่อล่ะออกจากริมฝีปากสวยก็หันมาสร้างรอยรักตามลำคอสวยอย่างรุนแรงกระดุมเสื้อคนตัวเล็กหลุดออกจนหมดด้วยน้ำมือของคนตัวเล็กเอง
เค้าซุกไซร้พร้อมสร้างรอยรักไปทั่วผิวขาวอย่างรวดเร็ว
จนไม่ลืมแวะมาทักทายยอดดอกสวยบนแผ่นอกบาง มือด้านล่างก็ชักนำคนตัวเล็กไปตามจังหวะที่เค้าคุ้นเคย
“ฮยองครับทำให้ผมหน่อยสิ”
“จะจีฮุน”
“นะครับ”
ผมจ้องมองไปที่คนด้านล่างที่น้ำตาไหลออกมาอย่างยั่วยวนจากการปลุกเล้าของผม
“ดะได้”
ผมนอนลงแทนที่พร้อมปลดกระดุมกางเกงยีนของตัวเองออก
ไม่ลืมที่จะถอดเสื้อที่แสนเกะกะของผมออก
“ทำสิครับฮยอง”
ผมจ้องมองพร้อมสั่งคนตัวเล็กเบาๆ ผมแทบรอไม่ไหวแล้ว
ปากสวยนั่นเวลาครอบลงมาบนแกนกายผม มันจะทำให้ผมเกือบเสร็จตั้งแต่เริ่มทุกที
“อือ อุก อือ”
“อ้าฮยองครับ ดูดเยอะๆเลยครับ”
มือผมจับประคองหัวคนตัวเล็กไว้ พร้อมขยับเข้าออกเบาๆ
เพื่อปลอบโยนคนที่กำลังขมักเขม้นดูแลผมอยู่
“อุก อือ”
“อ้า ฮยอง อ้า”
ผมจ้องมองทุกการกระทำของคนตรงหน้า ดวงตาเล็กๆที่คลอไปด้วยน้ำตาแหงนขึ้นมาจ้องหน้าผมอย่างยั่วยวนอย่างไม่รู้ตัว แก้มอวบพองออกและหุบเข้าทุกครั้งที่คนตัวเล็กดูดดุน เชี่ยผมจะเสร็จแล้ว
ผมจ้องมองทุกการกระทำของคนตรงหน้า ดวงตาเล็กๆที่คลอไปด้วยน้ำตาแหงนขึ้นมาจ้องหน้าผมอย่างยั่วยวนอย่างไม่รู้ตัว แก้มอวบพองออกและหุบเข้าทุกครั้งที่คนตัวเล็กดูดดุน เชี่ยผมจะเสร็จแล้ว
“พอก่อน”
ผมรีบหยุดทุกอย่าง ผมอยากแตกในปากคนตรงหน้านะ
แต่ตัวผมรู้ดีว่ามันเอาแต่ใจเกินไปที่ผมมีความสุขคนเดียว งั้นผมควรมอบความสุขให้ฮยองที่ผมแสนรักด้วยสิ
“นอนลงครับ”
“จีฮุน อ้า”
ผมดึงกางเกงสะแล็คที่คนตัวเล็กใส่อยู่ออกอย่างรวดเร็วพร้อมสอดใส่แกนกายเข้าไปในช่องทางที่ยังไม่ปิดสนิทอย่างรวดเร็ว
เพราะเมื่อคืนผมก็ทำให้คนตรงหน้าสลบคาอกเช่นกัน
“อะ อ่ะ อ้า จีฮุน อือ อึก”
“อ้าแน่นชิบหาย ทำไมมันยังแน่นอยู่ล่ะทั้งๆที่เมื่อคืนผมทำไปขนาดนั้น”
ผมแหกขาเล็กทั้งสองข้างออกพร้อมยกคนที่ยังสวมพียงเสื้อนักเรียนของผมขึ้นมาบนตัก
สองมือผมสอดเข้าไปใต้สะโพกเล็กยกขึ้นลงเพื่อช่วยคนตัวเล็กขยับร่างกายบนตัวผมให้เร็วที่สุด
ผมแหงนมองคนบนตัวเพื่อดูสีหน้าที่แสนยั่วยวนที่ผมรัก มือเล็กจับไหล่ของผมไว้แน่นพร้อมยกร่างกายตัวเองขึ้นลงอย่างที่คนตัวเล็กต้องการ
ปากเล็กๆร้องครางส่งเสียงพร้อมสูดลมหายใจเข้าออกอย่างรุนแรง
ผมชอบที่สุดชอบเวลาที่คนตัวเล็กมีความสุขไปพร้อมๆกับผม
“อ้า จีฮุน อึก อือ จะเสร็จแล้ว”
เหงื่อกามไหลเปาะเปื้อนไปหมดทั้งผมและคนตัวเล็ก ใกล้แล้วสินะ
ก็ช่องทางมันบีบรัดผมขนาดนี้แล้วนิ
“อ่ะจีฮุนจะไปไหน”
“ผมหิวน้ำน่ะ”
ผมยกตัวเล็กขึ้นพร้อมนำสองขาเล็กเกี่ยวรัดเอวตัวเองไว้
เดินไปตามทางประคองก้อนเนื้อนิ่มสองก้อนด้านหลังพร้อมยกขึ้นลงไปเรื่อยๆพร้อมเดินมุ่งไปที่ห้องครัว
“อ่ะ จีฮุน อือ”
น้ำรักสีเกือบใสฉีดพ่นมาที่หน้าท้องผมอย่างรุนแรง จะไม่ให้ใสได้ไงเมื่อโดนผมทำไปซ่ะขนาดนั้นนิครับ
“ว้าแย่จังฮยองเสร็จก่อนผมได้ไง แบบนี้ต้องโดนลงโทษนะ”
“จีฮุน มะ ไม่ อือ”
ผมกระแทกร่างกายเข้าออกเร็วขึ้นเพื่อให้โดนจุดนั้นในช่องทางแสนสวย
“อ้า จีฮุน อือ”
เจอแล้วสินะ
“ป่ะไปกินน้ำกัน”
ร่างกายเราสอดประสานแทบเป็นเนื้อเดียวกัน กระแทกเข้าหากันไปตามทางจนถึงห้องครัว
“จีฮุนปล่อยฮยองก่อนสิ อือ”
“ไม่ ฮยองเปิดประตูตู้เย็น”
คนตัวเล็กรีบทำตามผมบอกมือสั่นเปิดตู้เย็นช้าๆพร้อมหันกลับมามองหน้าผมด้วยไปหน้าที่แสนน่ารังแก
“หยิบขวดน้ำออกมาสิ แล้วปิดประตูตู้เย็นซะ”
“อ่ะอ้าๆๆๆๆ”
ผมยกคนตัวเล็กมาที่โต๊ะกินข้าวพร้อมวางสะโพกสวยลงบนโต๊ะกระแทกกระทั้นส่งแกนกายเข้าไปในช่องทางอย่างรุนแรง
สองมือหยิบน้ำเย็นขึ้นมาอมไว้ในปาก พร้อมประกบลงไปที่ริมฝีปากเล็กส่งน้ำเข้าไปพร้อมพลัวพันลิ้นดูดดึงจนได้ยินเสียงแลกเปลี่ยนน้ำดังลั่นห้อง
สะโพกผมไม่ยอมแพ้กระแทกแกนกายเข้าไปจนโต๊ะสั่นสะเทือนไปหมด
“อ้าจีฮุน อ๊ะ ๆๆ แรงอีก จะเสร็จแล้ว”
“ผมด้วย”
ผมแหวกสองขาเล็กขึ้นพาดไหล่พร้อมดึงสะโพกเล็กเข้าออกอย่างรวดเร็วและรุนแรง
สองมือเล็กจับขอบโต๊ะไว้แน่นเพื่อกันร่างกายขาวที่ประดับไปด้วยรอยกัดและรอยรักไม่ให้ขยับไปไกล
“อ๊ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อ้า”
“อือ อ้า”
ผมฉีดพ่นน้ำรักเข้าไปในช่องทางสวยอย่างรุนแรงดันแกนกายเข้าไปจนสุดเพื่อให้น้ำรักทุกหยดไหลเข้าไปในร่างกายของคนตัวเล็ก
ไม่ต่างจากคนตัวเล็กที่ปล่อยน้ำกระเด็นไปทั่ว
“อือเหนื่อย”
“ผมยังไม่พอ”
“อือ ไปต่อในห้องนะ”
คนอายุมากกว่าถูกอุ้มประคองเข้าไปในห้องอย่างถนุถนอมจากคนที่เค้าแสนรัก
เด็กอายุ19ที่แสนมั่นคง ต่อไปนี้คนๆนี้คงดูแลคนตัวเล็กจนสิ้นสุดอายุไข
คำมั่นสัญญาของคนทั้งสองที่ไม่เคยเอ่ยออกมาแต่กับรู้ด้วยหัวใจกันและกัน
ต่อไปนี้ทุกวันเกิดของกันและพวกเค้าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป......พวกเค้าสัญญา.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น